วิธีแทงไฮโลออนไลน์ ที่มือใหม่ต้องรู้ เล่นยังไงก็ได้กำไร

วิธีแทงไฮโลออนไลน์ ที่มือใหม่ต้องรู้ เล่นยังไงก็ได้กำไร

วิธีแทงไฮโลออนไลน์ พูดถึงไฮโลใครที่ไม่เคยเล่นหรือรู้จักแต่ชื่อคงคิดว่ามันเป็น การพนัน ง่าย ๆ ที่มีแค่ลูกเต๋ากับถ้วยเขย่าส่วนเราก็มีหน้าที่แค่แทงสูง-ต่ำกันแค่นั้น แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ถึง ไฮโล จะไม่ได้เล่นยาก มันก็ไม่ได้เล่นง่ายเหมือนเกมพนันบางอย่าง เรียกได้ว่าถ้าไม่เข้าใจอาจได้แทงกันมั่ว ๆ หมดตัวกันไวแน่นอน วันนี้ผมจะพาไปรู้จักกับเจ้าเกมเขย่าลูกเต๋าที่ฮิตจน คาสิโนออนไลน์ ทุกที่ต้องมีกัน แทงหวย 24

วิธีแทงไฮโลออนไลน์

วิธีแทงไฮโลออนไลน์ และอัตราจ่าย

 ในการเล่น ไฮโล นั้นสิ่งสำคัญกว่าการออกแต้มของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก ก็คือวิธีการแทงหรือวางเดิมพันครับ ในแต่ละรูปแบบการแทงที่เราเลือกไปมันจะมีอัตราจ่ายที่แตกต่างกันไป บางอันก็จ่ายเยอะ บางอันก็จ่ายน้อย จนไม่รู้ว่าจะแทงอันไหนดี ซึ่งถ้าไม่เข้าใจในจุดนี้มีเท่าไรก็แทงเสียแน่นอน ส่วนรูปแบบการแทงจะมีดังนี้

  • แทงต่ำ – สูง

หากเป็นบ่อนตามบ้านหรือ คาสิโนออนไลน์ บางแห่งจะเรียกวิธีการแทงแบบนี้ว่า “แทงเล็ก-ใหญ่” เป็นการแทงโดยใช้แต้มรวมของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกเป็นตัวตัดสิน หากแต้มรวมอยู่ระหว่าง 4-10 แต้มจะถือว่าเป็น “ต่ำ” และหากแต้มรวมอยู่ที่ 11-17 แต้มจะถือว่าเป็น “สูง” ส่วนอัตราจ่ายจะอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุน

ยกตัวอย่างการแทงเช่น เราแทงสูง 100 บาท ถ้าทอยลูกเต๋าออกมาแล้วผลรวมได้ 15 เป็นแต้มสูง แบบนี้เราก็จะได้เงินกลับมา 200 บาท (ทุน 100 กำไร 100)

  • แทงคู่-คี่

เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการแทงที่มีอัตราแพ้ชนะ 50 : 50 โดยเราจะทายว่าแต้มรวมที่ออกมาเป็นเลขคู่หรือเลขคี่ หากทายถูกก็จะได้รับเงินรางวัล อัตราจ่ายอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุนเช่นกัน

ยกตัวอย่างเช่น เราแทง คี่ 100 บาท หากผลรวมออกมาเป็น 13 แบบนี้ถือว่าเราชนะ จะได้รับเงินกลับมา 200 บาท (ทุน 100 กำไร 100)

  • แทงเต็งเดี่ยว

สำหรับวิธีการแทงแบบนี้ถือว่าค่อนข้างง่ายครับ เพียงแค่ทายหมายเลข 1 – 6 เท่านั้น หากทอยลูกเต๋าออกมาแล้วมี 1 ใน 3 ลูกที่ออกผลตรงกับที่เราแทงไว้ ก็ถือว่าชนะในตานั้น อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุน

ยกตัวอย่างเช่น เราแทง 3 ไป 100 บาทถ้าผลการทอยออกมามีลูกเต๋าลูกใดลูกหนึ่งออกหน้า 3 เราก็จะชนะและได้รับเงินรางวัล 200 บาท (ทุน 100 กำไร 100)

  • แทงโต๊ด

เป็นการแทงแบบเจาะจงพร้อมกัน 2 หมายเลข (1-6) ว่าลูกเต๋าจะออกหน้าอะไรกับหน้าอะไร โดยเงื่อนไขการชนะก็คือเราจะต้องทายให้ถูก 2 ใน 3 ลูก เท่านั้น สำหรับอัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 5 ไม่รวมทุน

ยกตัวอย่างเช่น แทง 1 กับ 5 วางเดิมพัน 100 บาท หากลูกเต๋าสองในสามลูกนี้ออก 1 กับ 5 ถือว่าเราชนะ จะได้รับเงินกลับบ้านไปทั้งหมด 600 บาท (ทุน 100 กำไร 500)

  • แทงแต้มรวม

ในการแทงแต้มรวมถือว่าเป็นการแทงที่มีอัตราการจ่ายหลากหลายที่สุด เพราะเราจะต้องทายว่าแต้มรวมของลูกเต๋าทั้งหมดจะได้กี่แต้ม และในแต้มรวมแต่ละแต้มก็จะมีอัตราจ่ายไม่เท่ากันดังนี้

  1. ถ้าผลรวมเท่ากับ 4 หรือ 17 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 50 ไม่รวมทุน
  2. ถ้าผลรวมเท่ากับ 5 หรือ 16 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 18 ไม่รวมทุน
  3. ถ้าผลรวมเท่ากับ 6 หรือ 15 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 14 ไม่รวมทุน
  4. ถ้าผลรวมเท่ากับ 7 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 17 ไม่รวมทุน
  5. ถ้าผลรวมเท่ากับ 8 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 8 ไม่รวมทุน
  6. ถ้าผลรวมอยู่ระหว่าง 9 – 13 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 6 ไม่รวมทุน

ยกตัวอย่างเช่น เราแทงแต้มรวม 7 แต้ม 100 บาท ถ้าผลรวมออกมาเป็น 7 แต้มจริงเราจะได้รับเงินรางวัล 1,800 บาท (ทุน 100 กำไร 1,700)

  • แทงเต็งคู่

รูปแบบการแทงจะคล้ายกับการแทงโต๊ด คือลูกเต๋าสองในสามลูกจะต้องออกหน้าที่เราแทงไว้ เพียงแต่การแทงเต็งคู่จะเป็นการแทงเลขเดียว (1-6) และสองในสามลูกจะต้องออกเลขเดียวกับที่เราแทงไว้ อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 8 ไม่รวมทุน

ยกตัวอย่างเช่น เราแทงเต็งคู่ 5 ไป 100 บาท ถ้าลูกเต๋าสองในสามลูกออกหน้า 5 แบบนี้จะถือว่าเราชนะ ได้รับเงินกลับมา 900 บาท (ทุน 100 กำไร 800) แต่ถ้าออก 5 แค่ลูกเดียวถือว่าเราแพ้ทันที

  • แทงตองแบบไม่เจาะจงตัวเลข

เงื่อนไขการชนะในการแทงรูปแบบนี้ก็คือขอให้ลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก ออกหน้าเดียวกัน จะเป็นเลขอะไรก็ได้ อัตราการจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 24 ไม่รวมทุน

ยกตัวอย่างเช่น เราแทงตองแบบไม่เจาะจงตัวเลข 100 บาท หากลูกเต๋าออกหน้า 4 ทั้งสามลูกแบบนี้ถือว่าเราชนะ เงินรางวัลที่จะได้ก็คือ 2500 บาท (ทุน 100 กำไร 2,400)

  • แทงตองแบบเจาะจงตัวเลข

การแทงรูปแบบนี้จะต่างจากการแทงตองทั่วไปคือ เราต้องทายว่าลูกเต๋าทั้งสามลูกจะออกหมายเลขอะไรระหว่าง 1-6 โดยสามลูกจะต้องออกหน้าเดียวกับที่เราทายไว้เท่านั้นถึงจะชนะ อัตราจ่ายอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 150

ยกตัวอย่างเช่น แทงตอง 6 ไป 100 บาท ถ้าลูกเต๋าออกหน้า 6 ทั้งสามลูกถือว่าเราชนะ จะได้รับเงินรางวัล 15,100 บาท (ทุน 100 กำไร 15,000) แต่ถ้าออกหน้าเดียวกันทั้งสามลูกแต่เป็นหมายเลขอื่นก็ถือว่าเราแพ้ครับ

ท้ายบทวิธีแทงไฮโลออนไลน์

เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีแทง ไฮโล ที่เอามาฝากกันในวันนี้ น่าจะทำให้มือใหม่หลายคนเข้าใจวิธีการแทงกันมากขึ้น ซึ่งผมเองก็ว่ามันไม่ได้ยากมากมาย แต่ประเด็นสำคัญที่เราต้องเข้าใจและระวังไว้ก็คือเรื่องของอัตราจ่าย ยิ่งรูปแบบการแทงไหนที่จ่ายเยอะ ๆ ผมว่าควรจะแทงน้อย ๆ เข้าไว้ ส่วนที่จ่ายน้อย ๆ แทงมากหน่อยก็ไม่เป็นไร ที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่าการที่เขากล้าจ่ายให้เราเยอะก็เพราะเขามั่นใจแล้วว่ายังไงโอกาสที่มันจะออกก็มีน้อยมาก ต่างกับพวกที่จ่ายน้อย ๆ โอกาสที่เราจะชนะมันมีมากกว่า อัตราจ่ายมันจะแปรผันตรงกันข้ามกับความเสี่ยงแบบนี้แหละครับ ส่วนเรื่องอัตราจ่ายที่ผมยกมาก็เป็นเพียงแค่อัตราจ่ายในเรทกลาง ๆ สำหรับ คาสิโนออนไลน์ บางเจ้าอาจให้มากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ อันนี้เราต้องไปศึกษาเพิ่มเติมกันก่อนเล่นไฮโลด้วย

สามารถติดตามบทความดีๆได้ที่นี่

ตารางเดินเงินบาคาร่า รู้ก่อน รวยก่อน กำไร100%

ตารางเดินเงินบาคาร่า รู้ก่อน รวยก่อน กำไร100%

ตารางเดินเงินบาคาร่า ในการเล่น บาคาร่าออนไลน์ ให้ได้เงินนั้น นอกจากความสามารถในการเดาไพ่และการสะสมประสบการณ์ในการดูสถิติของห้องเดิมพันแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยนั่นคือตารางเดิน เงินบาคาร่า ซึ่งตารางเดิน เงินบาคาร่า จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ นักเดิมพัน ทุกคนสามารถวางแผน และตั้งเป้าหมายการทำกำไรได้อย่างเป็นระบบยิ่งขึ้น แทงหวย 24

ตารางเดินเงินบาคาร่า

ทำความรู้จักกับ ตารางเดินเงินบาคาร่า 

การเดิมพันในเกมไพ่บาคาร่า ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถควบคุมได้ว่าผลจะออกที่ฝ่ายเจ้ามือ หรือฝ่ายผู้เล่นในตาไหนบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถควบคุมได้เองแน่ๆ นั่นคือ การเดินเงินของคุณเอง

สำหรับการเดินเงินในเกมบาคาร่า หรือในเกมพนันอื่นๆ คือ การจัดการงบประมาณในการเดิมพันของคุณในแต่ละครั้งให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนทางการเงินของคุณได้อย่างรอบด้าน เช่น

  • การตั้งงบประมาณที่จะเล่นในแต่ละครั้ง 
  • ระยะเวลาที่ควรเล่นและหยุดเล่น 
  • การแบ่งจำนวนเงินลงทุนในตาต่างๆ ให้สามารถทำกำไรได้
  • การวางแผนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่คุณจะเสียหมดตัว

ซึ่งการเดินเงินของเกมบาคาร่า จะมีสิ่งที่เรียกว่า ตารางเดินเงิน บาคาร่า ที่ได้รับการประยุกต์จากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ด้วยวิธีการหลากหลาย และมีรูปแบบของการปกป้องเงินลงทุน รวมถึงการสร้างกำไรในรูปแบบที่ต่างกันออกไป โดยคุณสามารถเลือกนำไปใช้งานได้ตามความเสี่ยงของการลงทุนที่ต้องการ

ความสำคัญของตารางเดินเงินบาคาร่า จะช่วยให้คุณ

  • มองเห็นภาพรวมความเสี่ยงที่ชัดเจนในแต่ละเกมที่เล่น
  • ตัดสินใจได้ว่าจะเล่นทั้งหมดกี่รอบตั้งแต่ก่อนเล่น และหยุดทันทีเมื่อถึงจุดที่วางแผนไว้
  • รู้ว่าตอนไหนที่ควรเล่นต่อ หรือควรหยุด
  • ใช้เงินลงทุนที่ไม่เกินจำนวนที่วางเอาไว้ตั้งแต่แรก ช่วยป้องกันการเสียเงินทั้งหมดและรักษากำไรเอาไว้ได้

แนะนำ ตารางเดินเงินบาคาร่าใช้ได้จริง ทำกำไรได้ชัวร์

ถ้าคุณกำลังมองหาตารางเดินเงิน บาคาร่าที่ใช้งานได้ง่าย ได้ผลกำไรดี เราได้รวบรวมตารางเดินเงินบาคาร่าที่คุณสามารถเลือกใช้งานตามความเสี่ยง ซึ่งคุณเลือกเองได้ ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลย

  • ตารางเดินเงิน บาคาร่าแบบเรียบง่าย

ตารางเดินเงินนี้เหมาะกับ: ผู้ที่ชอบเดิมพันด้วยความเสี่ยงน้อย

สำหรับตารางเดินเงินแบบแรกจะเป็นการแบ่งเงินลงเดิมพันบาคาร่าในรูปแบบที่เรียบง่าย หรือ Flat Bet ซึ่งเป็นวิธีการเดินเงินในจำนวนที่เท่ากันตลอดทั้งเกมที่เล่น การได้เสียในแต่ละตาจะไม่มีความผันผวนมาก ถ้าแทงชนะติดต่อกันหลายตาก็จะได้กำไรที่ดี หรือถ้าเสียก็จะเสียทีละไม่เยอะ ทำให้สามารถรักษาเงินเดิมพันจำนวนหนึ่งเอาไว้ได้

ในการใช้งานตารางนี้ ให้เริ่มจากการตั้งงบประมาณเดิมพันที่ต้องการ พร้อมกำหนดจำนวนครั้งที่จะลงเดิมพัน และแบ่งย่อยเงินก้อนออกเป็นจำนวนที่เท่าๆ กันในแต่ละตาที่ลงเดิมพัน 

ตัวอย่างตารางเดินเงินแบบเรียบง่าย 

กำหนดงบประมาณที่ 500 บาท แบ่งการเล่นออกเป็นตาละ 50 บาท ทั้งหมด 10 ตา เมื่อจบตาที่ 10 แล้วไม่ว่าจะได้กำไรหรือเสียหมดก็ให้หยุดเล่นทันที

  • ตารางเดินเงิน บาคาร่าแบบ 1-3-2-6

ตารางเดินเงินนี้เหมาะกับ: ผู้ที่ชอบเดิมพันด้วยความเสี่ยงน้อย

การเดินเงินแบบ 1-3-2-6 หรือในบางคนอาจะเลือกลงเดิมพันแบบ 1-3-2-4 เป็นวิธีการแบ่งก้อนเงินเดิมพันออกเป็น 4 ก้อน ซึ่งจะเป็นวิธีการแบ่งจำนวนเงินลงเดิมพันในแต่ละตาที่ไม่เท่ากันตามลำดับเท่าที่กำหนด เพื่อให้ตาหลังๆ สามารถทำกำไรให้เยอะขึ้น หรือรักษาเงินเอาไว้หากในตาแรกๆ เดิมพันแล้วเสีย

ตัวอย่างตารางเดินเงินแบบ 1-3-2-6

กำหนดงบประมาณที่ 1,200 บาท หากแบ่งออกเป็น 1-3-2-6 จะได้ 100 / 300 / 200 / 600 โดยจำแบ่งเงินแต่ละก้อนลงเดิมพันเรียงลำดับกันทั้งหมด 4 ตา 

  • ตารางเดินเงินบาคาร่าแบบทบ

ตารางเดินเงินนี้เหมาะกับ: ผู้ที่ชอบเดิมพันด้วยความเสี่ยงปานกลาง

สำหรับการเดินเงินบาคาร่าแบบทบ หรือการเดินเงินด้วยลำดับทางคณิตศาสตร์แบบฟีโบนักชี จะเป็นวิธีการเดินเงินที่เน้นการทำกำไรแบบทวีคูณขึ้นไปในแต่ละตาที่ลงเดิมพัน พร้อมไปกับการป้องกันการเสียต้นทุนหากในตาก่อนหน้าเสียไป

ซึ่งลำดับการนับแบบฟีโบนักชี จะเป็นการนำเลขบวกกับลำดับก่อนหน้าไปเรื่อยๆ ได้แก่ 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, …

กฎการเดินเงินแบบฟีโบนักชี จะลงเดิมพันตามจำนวนเท่าของลำดับเลข โดยถ้าตาไหนเดิมพันแล้วได้ จะต้องย้อนกลับไป 2 ตำแหน่ง แล้วเริ่มเดิมพันใหม่ แต่หากว่าเสียก็ลงเดิมพันในลำดับถัดไปเรื่อยๆ

ตัวอย่างตารางเดินเงินแบบทบ

กำหนดเอาไว้ในแต่ละตาจะลงเดิมพันที่ 10 บาท (คูณจำนวนเท่าตามลำดับเลข) ทั้งหมด 10 ครั้ง เมื่อจบตาที่ 10 แล้วไม่ว่าจะได้กำไรหรือเสียหมดก็ให้หยุดเล่นทันที

  • ตารางเดินเงิน บาคาร่าแบบพาโรลี

ตารางเดินเงินนี้เหมาะกับ: ผู้ที่ชอบเดิมพันด้วยความเสี่ยงน้อยถึงปานกลาง

สำหรับการเดินเงินบาคาร่าแบบพาโรลี เป็นอีกหนึ่งวิธีการเดินเงินที่ช่วยให้มีโอกาสการทำกำไรเมื่อชนะเยอะมากขึ้น และยังช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนได้ด้วย

กฎการเดินเงินแบบพาโรลี: จะใช้การเดินเงินติดต่อกันทั้งหมด 3 ตา โดยในตาแรกให้ลงทุนในจำนวนที่ต้องการ ซึ่งหากว่าแพ้ในตาถัดไปให้ลงเดิมพันในจำนวนเท่าเดิม แต่ถ้าชนะให้ลงเดิมพันเป็น 2 เท่า

ตัวอย่างตารางเดินเงินแบบพาโรลี

กำหนดเอาไว้ในแต่ละตาจะลงเดิมพันเริ่มต้นที่ 10 บาท โดยจะเดิมพันทั้งหมด 3 ตา ซึ่งจะต้องเตรียมทุนในการเล่นทั้งหมด 10 + 20 + 40 = 70 บาท ตารางตารางเดินเงินบาคาร่า ที่จะเกิดขึ้นได้จะมี 8 รูปแบบดังนี้

  • ตารางเดินเงิน บาคาร่าแบบเพิ่มทีละเท่าตัว

ตารางเดินเงินนี้เหมาะกับ: ผู้ที่ชอบเดิมพันด้วยความเสี่ยงปานกลางถึงสูง

สำหรับการเดินเงินบาคาร่าแบบเพิ่มทีละเท่าตัว หรือสูตรการเดินเงินแบบมาติงเกล จะเป็นวิธีการเดินเงินเพิ่มทีละ 2 เท่าเมื่อเดิมพันแพ้ เพื่อให้ตาต่อไปมีโอกาสเอาเงินทุนกลับมาได้ โดยการนับเพิ่มทีละ 2 เท่า คือ 1, 2, 4, 8, 16, 32, …

ความเสี่ยงของการเดินเงินแบบนี้ คือ ถ้าเสียติดต่อกันหลายตามากเกินไป ก็จะทำให้เสียเงินจำนวนมากได้ ดังนั้นวิธีที่ช่วยให้ไม่เสียเงินจนหมดตัวนั่นคือ การกำหนดจำนวนรอบเดิมพันและตั้งทุนในการเดิมพันให้ชัดเจน

กฎการเดินเงินแบบมาติงเกล: ให้ตั้งจำนวนเงินเดิมพันในการเล่นให้ชัดเจน และกำหนดจำนวนรอบที่จะเล่นให้ดี จากนั้นแบ่งเงินลงเดิมพันในตาแรกตามต้องการ หากชนะให้เดิมพันจำนวนเท่าเดิมไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเดิมพันแพ้ให้เพิ่มจำนวนเดิมพันไปทีละ 2 เท่า จนกว่าจะชนะแล้ววนกลับไปลงเดิมพันตามตาแรกใหม่

ตัวอย่างตารางเดินเงินแบบมาติงเกล

กำหนดเอาไว้ในแต่ละตาจะลงเดิมพันเริ่มต้นที่ 20 บาท จำนวน 6 ตา เงินที่จะต้องเตรียมใช้เป็นทุนจะต้องเป็น 20 + 40 + 80 + 160 + 320 + 640 = 1,260 บาท 

สามารถติดตามบทความดีๆได้ที่นี่